วันพุธที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

หนังสือของพ่อหลวงพ่อเหนือหัวของปวงชนชาวไทย

เมื่อวันที่ 14 พ.ย. 59 ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทยได้ทำการแจกหนังสือ "พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และ ๙๙ พระบรมราโชวาท น้อมนำราษฎร์ร่มเย็นเป็นสุขศานต์"
หนังสือสองเล่มนี้ได้ ได้จัดทำขึ้นโดย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) ได้รับมอบหมาย จากท่าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้จัดพิมพ์หนังสือพระบรมราโชวาท และพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณหาที่สุดมิได้
หนังสืออันทรงคุณค่า2 เล่มนี้ได้ทำเสร็จเรียบร้อยแล้วและพร้อมแจกฟรีให้กับประชาชนตั้งแต่วันที่ 14 พฤศจิกายน 2559 เวลา 13.30 น.ที่บริเวณหน้านิทรรศการ "ทรงสถิตในดวงใจไทยนิรันดร์" ภายในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร
และยังมีเผยแพร่ในรูปแบบ e-book ให้ประชาชนได้ดาวน์โหลดฟรี เพื่อเก็บไว้ให้ลูกหลานได้เป็นมรดกอันทรงคุณค่าสืบต่อไป

เล่มที่หนึ่ง ชื่อ "พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช" เป็นหนังสือที่พิมพ์เกี่ยวกับพระราชประวัติ พร้อมพระราชกรณียกิจด้านต่างๆตลอดการครองสิริราชสมบัติ 70 ปี พร้อมพระบรมฉายาลักษณ์ซึ่งก็มีหลายภาพซึ่งแต่ละภาพล้วนเป็นภาพที่หาชมได้ยากและล้วนเป็นภาพที่ทรงคุณค่าและน่าจดจำไปชั่วลูกชั่วหลาน สำหรับท่านไหนต้องการดาวน์โหลดหนังสือเล่มนี้เก็บไว้ สามารถดาวน์โหลดได้ที่นี่    http://www.m-culture.go.th/th/download/king9/Phumiphon.pdf




เล่มที่สอง มีชื่อว่า "๙๙ พระบรมราโชวาท น้อมนำราษฎร์ร่มเย็นเป็นสุขศานต์" เล่มนี้ได้มีเนื้อหาเกี่ยวกับพระบรมราโชวาท และพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่พระราชทานในโอกาสต่างโดยได้แบ่งเป็นหมวดต่างๆอาทิเช่น รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ซื่อสัตย์ เสียสละ อดทน มีอุดมการณ์ฯ รักษาวัฒนธรรมประเพณี รู้จักดำรงตนตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง คำนึ่งถึงผลประโยชน์ส่วนรวมของชาติ เป็นต้น รวมถึงเชิญ พระปฐมบรมราชโองการในพระราชพิธีบรมราชาภิเษกวันที่ 5 พฤษภาคม 2493 ว่า "เราจะครองแผ่นดินโดยธรรมเพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม" รวบรวมไว้ในหนังสือเล่มนี้ด้วย สำหรับท่านไหนสนใจดาวน์โหลดหนังสืออันทรงคุณค่าเล่มที่2 เก็บไว้ สามารถดาวน์โหลดได้ที่  http://www.m-culture.go.th/th/download/99book.pdf


ขอบคุณกระทรวงวัฒนธรรมและผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดที่ได้สร้างสรรค์สิ่งดีๆไว้ให้กับประชาชนชาวไทยรวมทั้งตัวผมเองด้วย รู้สึกว่าตัวเองเกิดมาชาตินี้มีบุญวาสนาเหลือเกินที่ได้เกิดมาในแผ่นดินไทย และขอขอบคุณ http://www.m-culture.go.th ที่ได้ทำหนังสือในรูปแบบ E-Book ที่ผมคนไทยคนหนึ่งไม่มีโอกาสได้รับหนังสือฉบับจริง ได้ดาวน์โหลดมาเก็บไว้เป็นมรดกอันทรงคุณค่าและได้เก็บไว้ให้ลูกให้หลานได้อ่านกันต่อไปครับ ขอบคุณครับ


คนเก็บฟืน

ไม่ได้หายไปไหนน่ะครับ บล็อกยังอยู่เหมือนเดิมครับและก็คิดถึงผู้อ่านทุกท่านทุกวันเพียงแค่ไม่มีเวลามาอัพเดท แต่ก็ได้เก็บภาพในระหว่างที่เงียบไปบ้างเหมือนเดิมครับ
ต่อไปนี้ใครจะมาผมเป็น"คนไม่เอาถ่าน" ไม่ได้แล้วน่ะครับ เพราะอาทิตย์นี้ทั้งอาทิตย์ผมได้กลายเป็นคนเอาถ่านแล้วครับ
ทั้งหาไม้,หากะลาและก็หาสูตรเคล็ดลับ จนได้เทคนิคดีๆจากผู้ใหญ่ผู้รู้รอบข้างและก็ข้อมูลดีๆทางอินเตอร์เน็ต ใช่ครับผมเผาถ่านเป็นแล้วครับ จุดประกายในการเผาถ่านก็คือเมื่อต้นๆเดือนพฤศจิกายน มีทั้งฝนทั้งลม และก็อากาศหนาวมากเลยครับ อีกทั้งผมคิดว่าถ้าผมเผาถ่านเองแล้ว นอกจากจะได้นำมาใช้แล้วก็แบ่งให้เพื่อนๆพี่ๆน้องๆแบ่งๆกันไปแล้ว ยังจะเหลือไว้ได้ขายเป็นรายได้เล็กๆน้อยได้อีกด้วย ทำได้สี่ห้าถังครับ แต่เมื่อสองสามวันมานี่อากาศร้อนขึ้นมาเฉยเลยครับ ร้อนเหมือนกับกลางเดือนเมษาเลย เจ้าอากาศนี่ก็แปรปรวนเหมือนกับอารมณ์ของผมเลยน่ะครับ
มีทั้งความสุขและก็ความตื่นเต้นครับ ในการเผาถ่านของผมเพราะเป็นครั้งแรกที่เผาถ่านแบบใช้ถังเหล็ก และก็ได้เพิ่มความสามัคคีไปในตัว เพราะว่าถังหนักครับยกคนเดียวไม่ไหว ต้องมีพี่น้องรอบๆสวนช่วยยกกันคนละไม้ละมือ ช่วงนี้ก็ไม้ก็ยังไม่มีเพิ่มกะลาก็ยังไม่เพิ่มเช่นกัน วันนี้ก็งดการเผาถ่านไว้ก่อนล่ะกันน่ะครับ หาไม้เพื่อมาทำถ่านได้อีกก็จะมาเผาเพิ่มอีกครับ เพราะอีกแค่เดือนนิดๆ ก็จะปีใหม่ล่ะเผื่อพี่ๆน้องๆเพื่อนอยากได้ถ่านไปใช้เผา,ย่าง อาหารการกินไว้สังสรรค์ปีใหม่จะได้แบ่งปันกันใช้ ดีใจจังครับเป็นคนเอาถ่านกับเค้าส่ะที



เคล็ดลับและก็เทคนิคในการเผาถ่านแบบบ้านสวนขุนแผนผมจะนำมาฝากกันในบทความหน้าน่ะครับ ให้ผมลองผิดลองถูกจนสูตรลงตัวแล้ว ผมนำมาฝากแน่นอนครับไม่มีหวงแน่นอนครับเพื่อที่เราจะได้เป็นคนเอาถ่านส่ะที ขำๆน่ะครับ คิดถึงน่ะครับอากาศเดียวหนาวเดียวร้อนดูแลสุขภาพกันด้วยน่ะครับด้วยรักและปรารถนาดีจากบ้านสวนขุนแผนครับ ขอบคุณครับแล้วเจอกันบล็อกหน้าน่ะครับ